ทำความรู้จัก 6 แบรนด์สตรีทแวร์ระดับโลกที่น่าเป็นเจ้าของ

ทำความรู้จัก 6 แบรนด์สตรีทแวร์ระดับโลกที่น่าเป็นเจ้าของ

สตรีทแวร์กลายเป็นคำคุ้นเคยที่ได้ยินกันอยู่บ่อยครั้งในโลกของแฟชั่น ซึ่งก็มีหลากหลายแบรนด์ทั้งในประเทศไทยรวมถึงแบรนด์ระดับโลกที่ต่างก็ผลักดันให้แบรนด์เข้าไปอยู่ในคำจำกัดความของ “สตรีทแวร์” ได้อย่างไม่ยาก ซึ่งวันนี้ Favforward จะพาไปทำความรู้จักกับ 7 แบรนด์ระดับโลกกันก่อน

สตรีทแวร์ หลายคนมองว่าเป็นแฟชั่นที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปบนท้องถนน (แต่มันไม่ใช่เพราะคำว่า Street หรอกนะ) ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่ว่าเสื้อผ้าทุกแบบที่สวมใส่กันจะเป็นสตรีทแวร์ เพราะสตรีทแวร์มีที่มาที่ไปจากอิทธิพลกลุ่มเด็กสเก็ตบอร์ดในยุค 80 ที่หลอมรวมวัฒนธรรม การใช้ชีวิต กราฟฟิตี้ แฟชั่นและอิสระเข้าไว้ด้วยกัน ฉะนั้นสตรีทแวร์ก็เปรียบเสมือนการแต่งตัวที่อิสระ แต่ยังคงมีสไตล์ในตัวของมันเอง ซึ่งปัจจุบันสตรีทแวร์ก็ได้แทรกเข้าไปบนโลกของแบรนด์ไฮเอนด์หลายๆ แบรนด์ มากขึ้นจนเกิดเป็นกระแสตรีทแวร์ถึงทุกวันนี้ อย่างแบรนด์…

Supreme

แบรนด์เสื้อผ้าสตรีทแวร์ในฝันของใครหลายๆ คน ที่สื่อหลายสำนักต่างพากันให้คำจำกัดความของแบรนด์นี้ว่า Chanel แห่งวงการ Street wear ซึ่ง Supreme ก่อตั้งโดย James Jebbia ที่เข้ามาทำงานในเมืองนิวยอร์ก เมื่อปี 1983 โดยเริ่มจากการขายเสื้อผ้าและกระเป๋าควบคู่ไปกับการทำงานที่ร้านขายเสื้อผ้า จนเกิดมีเดียที่จะเปิดร้านเสื้อผ้าสำหรับกลุ่มเด็กสเก็ตบอร์ด (แต่ James Jebbia เล่นสเก็ตบอร์ดไม่เป็น) โดยใช้ชื่อว่า Supreme ในปี 1994 และมีโลโก้ที่ทุกคนคุ้นตา เรียบง่าย อย่างฟ้อนต์สีขาวที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมสีแดงเท่านั้น

A Bathing Ape (Bape)

แบรนด์สตรีทแวร์จากแดนปลาดิบก่อตั้งโดยแฟชั่นดีไซน์เนอร์นามว่า Nigo ที่โด่งดังจากการเริ่มผลิตเสื้อผ้าวัยรุ่นในปี 1993 ก่อนจะประสบความสำเร็จมากขึ้นจากเจ้าโลโก้ที่มีที่มาที่ไปจากภาพยนตร์และซีรีส์เรื่อง Planet of the Apes โดยใช้วิธีการขายสินค้าแบบจำกัดจำนวน ทำให้เกิดความต้องการเพิ่มมากยิ่งขึ้น และเพื่อป้องกันสินค้าของร้านไปโผล่ในตลาดมืด และนอกจากที่ญี่ปุ่นแล้ว Bape ยังไปสร้างชื่อที่สหรัฐอเมริกาอีกด้วยการเปิดร้าน Bape store แห่งแรกในสหรัฐฯ ที่นครนิวยอร์ก ในปี 2004

Off-White

แบรนด์สตรีทกึ่งไฮเอนด์หน่อยๆ ก่อตั้งโดย  Virgil Abloh ออกแบบเสื้อผ้าผ่านแรงบันดาลใจจากงานสถาปัตยกรรมต่างๆ ที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน ถ่ายทอดเข้าไปในดีไซน์ผสมผสานกันระหว่าง High Fashion และStreetwear ซึ่งแน่นอนว่าทำให้ Off-White เป็นเสื้อผ้าสตรีทที่มีราคาสูงต่างจากแบรนด์ทั่วๆ ไป และเริ่มท้าทายความสามารถของตัวเองเรื่อยๆ ด้วยการคอลแลบกับแบรนด์ชั้นนำทั่วโลกอย่างไม่หยุดนิ่ง

Mastermind Japan

ก่อตั้งโดย Masaaki Homma ดีไซน์เนอร์ชาวญี่ปุ่น ในปี 1997 ที่กรุงโตเกียว โดยใช้สัญลักษณ์กระโหลกไขว้มาเป็นภาพจำของแบรนด์ และถึงแม้ว่า Mastermind Japan จะเคยประกาศยุติกิจการไปในปี 2013 ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้แบรนด์เลือนหายไปจากวงการสตรีทแวร์ เพราะ Mastermind Japan ยังคงมีโอกาสได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังๆ ระดับโลกจนกลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง และไม่เคยละทิ้งแนวทางความเป็น Mastermind Japan ไว้จนถึงปัจจุบัน

Palace

Palace ถือกำเนิดขึ้นในกรุงลอนดอน ซึ่งบรรดาสาวกสเก็ตบอร์ดที่ลอนดอนมักจะเรียกแบบง่ายๆ ว่า The Palace โดยจุดเด่นของแบรนด์นี้อยู่ที่การชอบทำอะไรสวนกระแสกับแบรนด์อื่นๆ จนเกิดเป็นตัวตนที่ชัดเจนมากขึ้น และหลังจากที่แบรนด์สตรีทแวร์อย่าง Supreme เข้าไปบุกตลาดฝั่งยุโรปด้วยการเปิดช็อปที่ลอนดอนเป็นที่แรก ก็ยิ่งเป็นผลดีกับ Palace เพราะผู้คนต่างหลงไหลในวัฒนาธรรมของสเก็ตบอร์ดมากขึ้น จน Palace ไม่ใช่แค่แบรนด์ที่ใส่กันเฉพาะกลุ่มแต่กลับกลายเป็นแบรนด์สตรีทแวร์แถวหน้าของโลกที่ผู้คนแย่งชิงเพื่อเป็นเจ้าของกันอย่างล้นหลาม

Stussy

Stussy ถือกำเนิดขึ้นที่สหรัฐอเมริกา แต่กลับไปได้รับความนิยมที่แดนปลาดิบมากกว่า จนต้องย้ายไปตั้งหลักปักฐานอยู่ที่ญี่ปุ่นจนถือว่าเป็นแบรนด์ของญี่ปุ่นไปโดยปริยาย ก่อตั้งโดย Shwn Stussy และใช้ลายเซ็นต์ของตัวเองเป็นโลโก้แบรนด์ โดยตั้งใจให้แบรนด์เป็นเสมือนการบอกเล่าเรื่องราวที่ผ่านมาของเขาจนได้รับความนิยมตั้งแต่ยุค 90 เป็นต้นมา และเน้นสร้างตลาดในประเทศญี่ปุ่นมากกว่าที่อื่นๆ สังเกตได้จากเสื้อบางคอลเลคชั่นที่จะมีวางจำหน่ายแค่เพียงในญี่ปุ่นเท่านั้น

ภาพจาก:

  • www.pinterest.com
keyboard_arrow_up