หล่อได้ในราคาที่เอื้อมถึงกับรถยนต์ยุโรปราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท!!

Motoring : หล่อได้ในราคาที่เอื้อมถึงกับรถยนต์ยุโรปราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท!!

ใครจะไปเคยคิดว่ารถยนต์หรูจากยุโรปจะสามารถเป็นเจ้าของกันได้ในราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท หากเป็นเมื่อก่อนคงยาก แต่ในเวลานี้มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ

สำหรับใครที่กำลังใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งอยากจะมีรถยนต์ยุโรปหรูๆ ไว้ในครอบครองสักคัน แต่ติดตรงที่คิดว่าราคาค่าตัวของมันอาจสูงลิบเสียจนต้องเลิกคิดแล้วล่ะก็ ช้าก่อน..!!

จากการสำรวจตลาดรถยนต์ในเมืองไทยอย่างถี่ถ้วนแล้วกลับพบว่า ในปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์แบรนด์ดังจากยุโรปหลายค่ายเริ่มทำราคาลงมาให้คนทั่วไปได้สัมผัสกันได้ง่ายขึ้น งานนี้เราจึงคัดเน้นๆ มา 4 รุ่นจาก 4 แบรนด์ดังเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจแก่ผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ในฝันอยู่ในเวลานี้

 

1.PEUGEOT 408 E-THP ราคา 1.69 ล้านบาท

เริ่มกันที่รถยนต์หรูสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง PEUGEOT 408 E-THP ตัวนี้กันก่อน รถยนต์คอมแพ็คซีดานที่โดดเด่นด้วยงานดีไซน์สวยงามลงตัว โฉบเฉี่ยวด้วยเส้นสายที่ออกแนวสปอร์ตเล็กๆ ที่น่าจะโดนใจชาวไทยได้ไม่น้อย แถมอัตราเร่งและการประหยัดเชื้อเพลิงอยู่ในระดับที่น่าพอใจมากๆ เลยทีเดียว

สำหรับ PEUGEOT 408 E-THP มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินรหัส E-THP (Turbo High-Pressure) ขนาดกะทัดรัด 1.6 ลิตร แต่สามารถรีดแรงม้าได้มากถึง 165 ตัวด้วยกัน แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 245 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ทำความเร็วจาก 0-100 ภายใน 8.2 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 215 กม./ชม. อัตราการบริโภคนำมัน 15.38 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในยุคที่ราคาน้ำมันพุ่งตัวไปข้างหน้าแบบไม่ค่อยหันหลังอย่างทุกวันนี้

รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ : PEUGEOT 408 E-THP 

 

2.VOLVO V40 ราคา 1.749 ล้านบาท

มาต่อกันอีกหนึ่งรถยนต์คุณภาพจากยุโรปอย่าง VOLVO กันบ้าง จากความเชื่อเดิมๆ ของหลายคนที่อาจคิดว่าหากอยากได้รถยนต์คุณภาพจากสวีเดนแบรนด์นี้ไว้ครอบครองสักคันคงต้องมีเงินอย่างต่ำสัก 2 หรือ 3 ล้านแน่ๆ แต่ ณ.เวลานี้เพียงแค่คุณมีเงินประมาณ 1.749 ล้านบาท ก็สามารถเป็นเจ้าของ VOLVO V40 ได้แล้ว

VOLVO V40 มาพร้อมตัวถังแบบแฮทแบ็ก 5 ประตูเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบรหัส B4204T19 4 สูบ 1969 cc 190 แรงม้า แรงบิด 340 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดที่ 210 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 16.4 กม./ลิตร เป็นไงล่ะ สเปคแบบนี้ กับแบรนด์และราคาขนาดนี้ น่าสนใจแค่ไหนถามใจคุณดู

รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ : VOLVO V40 

 

3.MINI COOPER COUNTRYMAN HIGHTRIM ราคา 1.89 ล้านบาท

ถือว่าเป็นรถยนต์ยอดนิยมในบ้านเราอีกหนึ่งแบรนด์สำหรับ MINI ที่เป็นรถยนต์ในความฝันของทุกเพศ ทุกวัย ที่ต่างอยากได้มาครอบครองแม้เพียงสักคัน และในเวลานี้ความฝันของคุณน่าจะอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่แล้ว เพราะราคาของเจ้า MINI COOPER COUNTRYMAN HIGHTRIM อยู่ที่ 1.89 ล้านบาทเท่านั้น

สำหรับเงินไม่ถึง 2 ล้านบาทแล้วคุณจะได้อะไรจากเจ้า MINI COOPER COUNTRYMAN HIGHTRIM คันนี้บ้าง มาดูสเปคแบบคร่าวๆ กันดีกว่า เริ่มด้วยเครื่องยนต์ของเจ้าตัวเล็กคันนี้เป็นแบบ เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร 192 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตรที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายไม่ว่าจะเป็นปุ่ม Start/Stop Button เครื่องเสียงระบบบลูทูธ ระบบสั่งการด้วยเสียง และล้อแม็กซ์อัลลอยขนาด 17 นิ้ว และมีให้เลือกถึง 5 สีด้วยกัน

รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ : MINI COOPER COUNTRYMAN HIGHTRIM

 

4.BMW 118i M Sport ราคา 1.99 ล้านบาท

ปิดท้ายกันด้วยรถยนต์จากค่ายใบพัดฟ้า-ขาวกันบ้าง ใครจะไปคาดคิดว่าสักวันหนึ่งยนตรกรรมระดับหรูอย่าง BMW จะสามารถทำราคาออกมาได้ต่ำกว่า 2 ล้านบาท แน่นอนมันเกิดขึ้นจริงแล้วกับ BMW 118i M Sport ที่ราคาค่าตัวของมันอยู่ที่ 1.99 ล้านบาทเท่านั้น

อย่างไรก็ดี แม้ BMW 118i M Sport จะมาพร้อมเครื่องยนต์แบบเบนซิน TwinPower Turbo 3 สูบ 1499 ซีซี ซึ่งถือว่าเป็นรถยนต์ที่เล็กที่สุดของค่าย BMW ก็ว่าได้ แต่ว่าเครื่องยนต์บล็อกนี้สามารถรีดกำลังได้ถึง 136 แรงม้า ที่ 4,500-6,000 รอบ/นาที แรงบิด 220 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 8.7 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. เลยทีเดียว แถมยังมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 20 กม./ลิตร ที่มาพร้อมโหมดขับขี่แบบประหยัด (ECO PRO) อีกด้วยเป็นไงล่ะ เครื่องเล็กแล้วยังไง?

รายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ : BMW 118i M Sport  

Top 10 Expensive cars 2017 : รถยนต์ที่มีราคาแพงที่สุดในปีนี้

เทคนิคซื้อ-ขายรถซุปเปอร์คาร์มือสองไม่ให้เสียใจภายหลัง

MINI เตรียมเปิดตัวรถยนต์โมเดลใหม่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% ภายในปี 2019

keyboard_arrow_up