Design for life : ออกแบบ ชุติมณฑน์

Design for life : ออกแบบ ชุติมณฑน์

Who : ออกแบบ ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง คือสาวน้อยหน้าใสตรงหน้าเราในวันนี้ เธอเคยมีผลงานในวงการบันเทิงมาแล้วหลายอย่าง ทั้งเดินแบบ ถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา เล่นเอ็มวี ล่าสุดได้รับบทบาทเป็น “ลิน” ในหนัง “ฉลาดเกมส์โกง” ของ GDH ซึ่งกำลังเป็นกระแสให้พูดถึงบนโลกโซเชียลในเวลานี้

ตลอดเวลาที่คุยกันเธอดูผ่อนคลาย ยิ้มง่ายพอๆ กับเสียงหัวเราะที่เรามักได้ยินอยู่เสมอ

ที่สำคัญ เธอดูมีแนวความคิด และทัศนคติหลายอย่างน่าสนใจ ซึ่งมีประโยชน์แน่ๆ กับใครก็ตามที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้

เพราะนอกจากเราจะคุยกันเกี่ยวกับหนัง ฉลาดเกมส์โกง ซึ่งเป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตของเธอแล้ว มากไปกว่านั้น เรายังอยากรู้ด้วยว่าจากประสบการณ์ดังกล่าวนี้ เธอได้รับอะไรจากมันมาบ้าง และจะส่งผ่านไปถึงวันข้างหน้าได้อย่างไร

ในเรื่องแสดงเป็นลิน เล่าให้ฟังหน่อยว่าคาแรกเตอร์เป็นอย่างไรบ้าง
ลินรดาเป็นเด็กเรียนเก่ง เป็นเด็ก Genius ด้านวิชาการ มีแนวคิดที่เป็นระบบระเบียบ อยู่บนพื้นฐานของครอบครัวที่อยู่กับคุณพ่อคนเดียว คุณแม่ทิ้งไป เค้าก็จะเจอโลก เจอสังคมที่มีปัญหามาซึ่งเค้าต้องผ่านมาให้ได้ ซึ่งทำให้เค้ามีความคิดแบบเข้าใจชีวิตมากขึ้น แล้วก็ด้วยความที่มีคุณพ่อเป็นคุณครู ก็เลยได้รับการสอนจากคุณพ่อด้วย

ในชีวิตจริงเรียนเก่งเหมือนในหนังมั้ย
ในหนังลินเค้าจะเก่งแบบคณิตศาสตร์โอลิมปิค แต่ตอนมัธยมเราชอบฟิสิกซ์ เรียนวิทย์ คณิต พอมาถึงตอนช่วงม.5 ตอนที่เราตั้ง Goal ไว้ว่าจะเข้าแพทย์ หรือเภสัช แต่ทีนี้แต่พอเข้ามาในวงการ (บันเทิง) จริงๆ เนี่ย มันทำให้เราได้ค้นพบว่าเราคงไม่มีเวลาให้กับคนอื่นเหมือนอย่างที่แพทย์หรือพยาบาลเค้าทำกัน ก็เลยรู้สึกว่าการได้อยู่กับตัวเอง หรือได้ทำเพื่อตัวเองน่าจะทำให้เรามีความสุขได้มากกว่า ก็เลยเลือกเปลี่ยนมาเรียนเป็น Exhibitionist Design ที่จุฬาฯ

เมื่อสักครู่บอกว่าเข้าวงการมาตั้งแต่ช่วงเรียนม.5 เป็นไงมาไงเล่าให้เราฟังหน่อย
พอดีตอนนั้นมีงาน111 ปี สตรีวิทยาแล้วเพื่อนชวนไปเป็น Back Stage ในงานนั้น เราก็โอเคได้ เดี๋ยวเราไปทำด้วย แล้วรู้สึกวันนั้นเหมือนจะมีการซ้อมใหญ่แบบเหมือนจริงทั้งหมด แล้วพอดีมีรุ่นพี่คนนึงเค้าอยู่ๆ ก็ชี้มาที่เราว่า เนี่ย เราน่ะน่าจะเป็นนางแบบได้ เค้าก็ชวนเราอยากเป็นนางแบบมั๊ย ก็ชวนไปแนะนำกับพี่ๆ ที่เป็นโมเดลลิ่ง ก็เลยได้ก้าวเข้ามาเป็นนางแบบ แล้วก็มีงานมาเรื่อยๆ

เคยคิดมั้ยว่าทำไมอยู่ๆ เค้าถึงเลือกเรา
เค้าให้เหตุผลว่าตอนนั้นคือเป็นเทรนด์นางแบบหน้าหมวยมา แล้วเราก็เข้ากับตรงเทรนด์นั้นพอดี ก็เลยมีงานมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ถ่ายแบบ เดินแบบ เล่นเอ็มวี

วิธีการทำงานในแต่ละอย่างแตกต่างกันยังไงบ้าง
ต่างกันเยอะเหมือนกันค่ะ นางแบบเค้าจะเป็นพวกแบบโพสต์นิ่งๆ อินเนอร์ทางสายตา แววตา ใบหน้า ท่าทาง แต่ถ้าเป็น MV โฆษณา แล้วก็หนังสั้นเนี่ย มันว่าด้วยเรื่องของอารมณ์ข้างในที่ต้องสื่อออกมาบอกเล่าเรื่องราวว่าเรากำลังสื่อถึงอะไร ไม่เหมือนกับนางแบบ เพราะนางแบบมันเป็นภาพนิ่ง

ส่วนตัวมองว่าแบบไหนมีความยากหรือง่ายกว่ากันอย่างไร
โฆษณายากกว่า คือมันเป็นเรื่องอารมณ์ของตัวแสดงที่ถูกกำหนดมาให้ ซึ่งเราก็ต้องเริ่มเรียนรู้คนๆ นึงที่เราจะต้องรับบทบาทนั้น เพราะว่าเราต้องแสดงเป็นเค้า เหมือนอย่างที่ต้องแสดงเป็นลินรดา นิลเทพ ในฉลาดเกมส์โกงค่ะ

 
มารับบทลินได้อย่างไร
ก่อนหน้านั้นพี่บาส (ณัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับฉลาดเกมส์โกง) เคยทักมาช่วงครึ่งปีแรก (2016) ช่วงที่พี่บาสเริ่มเขียนบท พี่เค้าบอกว่าตอนนี้กำลังเริ่มเขียนบทหนังอยู่เรื่องนึง แล้วสนใจอยากให้ออกแบบลองมาเล่น แต่ขอก่อนได้มั๊ยว่าถ้ามีใครติดต่อมาช่วงนี้อย่าพึ่งรับไปเล่นนะ ซึ่งตอนนั้นก็มีคนเสนอบทเข้ามาให้ไปเล่นเหมือนกันนะ แต่ก็ไว้ใจพี่บาส ไม่รับเล่น แล้วหลังจากนั้นพี่บาสก็ติดต่อมาอีกให้ไปแคส ซึ่งตอนนั้นคนที่ไปแคสเยอะมาก หลายคนก็มีประสบการณ์มาแล้วด้วย เราเป็นแบบหน้าใหม่มาเลย ซึ่งแบบพื้นฐานด้านแอคติ้งเนี่ยเราแทบไม่มีเลย ทีนี้เราก็เลยไม่ได้คาดหวังอะไรมาก ก็เสร็จปุ๊บโอเคผ่านรอบแรก (ทำหน้าแบบงงๆ) ก็เออ รอบแรกคือได้แล้วเหรอ ซึ่งเราไม่ได้ตื่นเต้นอะไรนะเพราะเราไม่คาดหวังไว้แต่แรก ออกแนวเหวอๆ มากกว่า เราได้จริงๆ เหรอ แล้วพอมารอบสอง ก็ทำเต็มที่เหมือนเดิม แต่รอบสองคือเราแคสกับพี่บาส เกร็งมากก (เน้นเสียง) พี่เค้าก็แบบไม่ต้องเกร็งนะ เอาแบบเป็นธรรมชาติ แล้วพี่บาสเค้าก็ช่วยส่งอารมณ์ เหมือนอันที่เห็นใน Trailer ตอนที่ออกแบบตกใจ พอเสร็จแล้วเค้าก็บอกโอเคกลับบ้านได้ จนผ่านมา 2 อาทิตย์ พี่ผู้จัดการเค้าก็โทรมาบอกว่า ออกแบบ หนูได้หนังนะ (ทำเสียงตกใจ) เราก็แบบฮะ อำเปล่า แกล้งแน่ๆ เลย ปรากฏว่าได้จริงๆ

ความรู้สึกแรกเป็นอย่างไร
ตื่นเต้นมาก ดีใจมากก (เน้นเสียง) รีบโทรหาหม่าม้าก่อนคนแรกเลยว่าได้เล่นหนังแล้วนะ

เคยแอบถามพี่บาสบ้างหรือไม่ว่าทำไมถึงเลือกเรา
พี่เค้าเคยบอกว่า ผมเลือกคุณเพราะโหงวเฮ้ง (หัวเราะ) เอาจริงๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่เค้าพูดจริงหรือพูดเล่น แต่โอเคคงโหงวเฮ้งได้ด้วยแหล่ะ แล้วเค้าก็บอกว่าการแสดงออกแบบก็เล่นได้นะจากที่เห็นผลงาน แล้วพอตอนมาแคสแอ็คติ้งโค้ชก็ช่วยให้เราพัฒนาการแสดงไปอีกขั้นนึง มันก็เลยออกมาได้ดี

ฉลาดเกมส์โกงคือหนังเรื่องแรกในชีวิต เป็นอย่างไรบ้าง
ใช่ค่ะ เรื่องแรก มันทั้งมีความสุข สนุก ตื่นเต้น มีทั้งความกลัว ความประหม่า ทุกอารมณ์เข้ามาในโมเม้นท์ของการทำงานเรื่องนี้เลยค่ะ

บรรยากาศในกองถ่ายเป็นอย่างไร
อืมม จะใช้คำว่าชิลมากก็ไม่ได้ เพราะว่าพี่บาสเค้าจะเป็นแบบพี่น้อง มีอะไรปรึกษากันได้ ไม่ค่อยเครียดเท่าไหร่ แต่ถ้าถึงจุดนึงเราเล่นได้ แต่เวย์มันไม่ได้ คือพี่บาสเค้าจะเป็นแบบอ่ะเวย์นี้ได้แล้ว ก็จะเปลี่ยนเวย์ ซึ่งเราเคยมีมากสุดแบบเปลี่ยนเวย์ไปถึง 21 เทค ซึ่งเป็นซีนเดิม แต่ถ้าถามว่าสนุกมั๊ย สนุกนะ แล้วโดยส่วนตัวคิดว่าการเปลี่ยนเวย์ มันคือการท้าทายตัวเองว่าคุณคิดว่าตัวละครมันจะไปในทางไหนได้บ้าง เล่นอะไรได้บ้าง เค้าจะพูดอะไรได้บ้าง

ถามจริงๆ พี่บาสดุมั้ย
ดุมั๊ย… (ทวนคำถามพร้อมยิ้ม) ก็เนี่ยแหล่ะ เรารู้สึกว่าด้วยการที่เค้าเปิดกว้างให้เราเล่นก็เลยทำให้เราดึงตัวแสดงออกมาได้มาก ก็เลยรู้สึกว่าเค้ายอมรับว่าตัวแสดงเป็นยังไง คือถ้าเค้าดุบ้างในบ้างครั้งเค้าก็จะมีเหตุผลว่ามันเป็นยังไง เช่น เราหลุดจากคาแรกเตอร์ของตัวแสดงซึ่งก็เหตุผลของพี่เค้าโอเค เราก็ต้องยอมรับผลของการกระทำที่ว่าเราหลุด (หัวเราะดัง..)

มีซีนไหนประทับใจบ้าง
ชอบซีนที่เข้ากับอุ้ม (อิษยา ฮอสุวรรณ ในเรื่องรับบทเป็น เกรซ) ซึ่งเป็นซีนที่มีปัญหากัน และเป็นซีนไคลแมกซ์ ซึ่งต้องไปติดตามในเรื่อง (หัวเราะ) เราจะไม่สปอยล์ ต้องไปติดตามกันในหนัง

เคยให้คะแนนตัวเองสำหรับหนังเรื่องแรกในชีวิตบ้างหรือไม่
ไม่เคยนะ ยังไม่เคยให้คะแนนตัวเองเพราะว่า 1 คือหนังยังไม่ออก 2 เราไม่สามารถบอกได้ว่าการแสดงที่ดีที่สุด หรือดีจริงๆ คือยังไง แต่เรารู้แค่ว่าเราต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ณ โมเม้นท์นั้น ทั้งกับตัวเราเอง และกับเพื่อนๆ ที่เข้าด้วยกันในซีนนั้นๆ

ความคาดหวังต่อหนังเรื่องนี้
พี่บาสบอกไม่ให้คาดหวัง (หัวเราะดัง)

เอาในมุมส่วนตัวของออกแบบ
คือด้วยความที่มีกระแสที่ทุกคนติดตาม แล้วด้วยความที่ตัวเราเองเล่นมาทั้งหมดแล้วเรารู้สึกสนุก ก็เลยอยากให้คนชอบมากกว่า ไม่ได้คาดหวังว่ารายได้จะต้องเท่าไหร่ ขอแค่ให้คนมาดูแล้วมีความสุขรู้สึกสนุกกับมัน อันนี้คือความคาดหวัง

หลังจากปล่อย Trailer ไปแล้วเสียงตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
ดีค่ะ ดีมากเลย ทุกคนรอบตัวอยากดู ทุกคนมักจะมาถามว่าตอนจบเป็นยังไง หม่าม้าสะกิดตลอดเลยว่าบอกหน่อยๆ ตอนจบเป็นยังไง (หัวเราะ) ก็บอกหม่าม้าว่าไม่ได้ ต้องไปดูเองในโรง ไม่บอกใครเลยในบ้าน (หัวเราะ)

ทำงานมาหลายอย่างมากเลย ทั้งเป็นนางแบบ ถ่ายแบบ เล่น MV เล่นหนัง อะไรคือสิ่งที่คุณชอบมากที่สุด
นักแสดงค่ะ (ตอบสวนทันที) คือจริงๆ แล้วการเป็นนักแสดงเหมือนเราได้ทำเต็มที่มากที่สุด เอ็มวีเรายังรู้สึกว่าไม่สุดสำหรับเรา อาจเป็นเพราะว่าเรายังไม่เคยเจอเอ็มวีที่ผู้กำกับให้เราเล่นแบบ Long take มาก่อน แต่พอมาเจอพี่บาส เหมือนกับพี่เค้าปล่อยให้เราเล่นแบบสุดอารมณ์จริงๆ

ด้วยความที่ฉลาดเกมส์โกงคือหนังเรื่องแรกของคุณ เคยมีความรู้สึกไม่มั่นใจบ้างหรือไม่ว่าเราจะทำได้หรือเปล่า
มีวันนึงที่เป็นเวิร์คช้อป แล้ววันนั้นรู้สึกว่ามันเป็นวัน Bad day สำหรับเรามาก เรารู้สึกว่ากำลังเป็นตัวถ่วงของเพื่อน เพราะว่าเราเล่นไม่ได้เลย เราไม่มีสมาธิ เราหลุดขำ หลุดบทพูดซึ่งเป็นแค่เวิร์คช้อปแต่ว่ามันสำคัญ เป็นซีนไคลแม็กซ์ที่เพื่อนๆ เค้าซ้อมกัน เราเลยเครียดว่าแบบเออ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปแล้ววันถ่ายจริงจะเป็นยังไง ซึ่งเพื่อนๆ ก็จะคอยปลอบเรา อย่างคุณนนกุล (นน ชานน สันตินธรกุล–ในเรื่องแสดงเป็นแบงค์) ก็จะคอยบอกเราว่า ยูต้อง Move on นะ เพราะว่าถ้ายูคิดแบบนี้ยูจะเล่นไม่ได้ อุ้มก็จะบอกว่าทุกคนก็จะมีวัน Bad day อย่าไปคิดมาก เจมส์ (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ-ในเรื่องแสดงเป็นพัฒน์) ก็จะบอกเฮ้ย มันไม่ใช่แค่แกทุกคนก็เป็น วันนี้แกคิดว่าแกเป็นตัวถ่วง พอเข้าไปในซีนวันใดวันหนึ่งก็ตาม เราอาจจะเป็นตัวถ่วงแก

ในความหมายคือ ความรู้สึกต่างๆ เหล่านี้ มันเกิดขึ้นได้กับทุกคนในกองถ่ายอยู่แล้ว?
ใช่ เหมือนพูดเสนอแนะข้อคิดมาให้เราคิดว่าเออ สิ่งที่ยูเป็นอยู่น่ะ มันไม่ได้ทำให้ยูดีขึ้นนะ ยูต้องคิดใหม่

นอกจากเพื่อนๆ จะคอยให้กำลังใจแล้ว เรามีวิธีบอกตัวเองอย่างไรเมื่อต้องเจอกับวันแย่ๆ เหล่านั้น
เราจะคิดว่าช่างแม่ง ทำใหม่ คำนี้เลยนะ แล้วอันนี้คือสิ่งที่คุณครูแอ็คติ้งก็คอยบอก ยูต้องช่างแม่ง ทำใหม่ แต่ต้องทำใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม แล้วพอจบหนังเรื่องนี้มาเราค่อนข้างช่างแม่งบ่อยมากกก (เน้นเสียง – หัวเราะดัง)

 

“เราจะคิดว่าช่างแม่ง ทำใหม่ คำนี้เลยนะ แล้วอันนี้คือสิ่งที่คุณครูแอ็คติ้งก็คอยบอก ยูต้องช่างแม่ง ทำใหม่ แต่ต้องทำใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเดิม แล้วพอจบหนังเรื่องนี้มาเราค่อนข้างช่างแม่งบ่อยมากกก..” (เน้นเสียง…)

ตอนนี้คือเรียนด้วย ทำงานด้วย มีวิธีแบ่งเวลายังไง
ดูเรื่องคิวก่อนเลยค่ะอันดับแรก เพราะว่าตอนนี้ก็มีแบบเดินสายด้วย ถ้าอย่างช่วงไหนมีส่งงานก็จะดูก่อนว่าเราได้ช่วงไหน เช่น ถ้าบ่ายมีส่งงานก็จะบอกว่าช่วงเช้าได้ แต่ช่วงบ่ายขอแว้บไปส่งงานก่อนนะ หรืออย่างถ้าวันไหนมีสอบ ก็จะหาวันอ่านหนังสือก่อน ก็จะเป็นประมาณนี้ ว่างปุ๊บอ่านหนังสือ ว่างปุ๊บทำการบ้าน พยายามไม่ให้ขาดเรื่องเรียนเพราะว่ายังไงก็ต้องจบ

ดูจากงานของคุณก็จะมีภาพลักษณ์อย่างหนึ่ง เป็นนางแบบดูมั่นใจ แล้วตัวตนจริงๆ ของคุณเป็นยังไง
เราบ้า (หัวเราะดัง) ง้องแง้งๆ เล่นมุขแป้ก อันนี้คือเราเลยนะ จำชื่อคนอื่นไม่ได้ จำชื่อหนังไม่ได้ จำชื่อเรียกต่างๆ ไม่ค่อยได้ เคยคุยกับเพื่อนบอกว่าเนี่ย มีการบ้านของวิชานึงคือวิชา 3D Max อาจารย์ให้ทำงานชิ้นนึงคือ EMD เพื่อนก็จะบอกว่า EMD อะไรของแกวะ เค้าเรียกว่า EDM (หัวเราะ) ซึ่งเพื่อนๆ ก็จะชินกันหมดแล้วว่าออกแบบเป็นแบบนี้

ด้วยความที่เรียนทางด้านศิลปะมาด้วย คิดว่าตัวเราเป็นสาวติสท์มั้ย
ออกแบบ : (หันไปถามผู้จัดการ) เราติสท์มั้ย (หัวเราะ..)
ผู้จัดการ : (ตอบสวนทันที) ติสท์ (หัวเราะ)
ออกแบบ : (หัวเราะดัง…) ไม่รู้นะ ถ้าถามคิดอื่นอาจบอกว่าเราติสท์ แต่เราไม่ได้มองว่าตัวเองติสท์นะ

วางอนาคตตัวเองหลังจากนี้ไว้ว่าอย่างไร
คิดว่าน่าจะยังอยู่ในวงการบันเทิงต่อไปก่อนนะคะ แต่อาจเพิ่มเติมการเรียนในส่วนของมาร์เก็ตติ้ง เพราะว่าสิ่งที่เราเรียนอยู่ตอนนี้คือ VM (Visual Merchandiser) ซึ่งเหมือนกับการตกแต่งร้าน ทำ Interior อะไรอย่างนี้ ทำบูธ ทำ Exhibition แต่ว่ามาร์เก็ตติ้งมันจะครอบคลุมในส่วนของ VM อีกที มันก็จะสามารถเปิดโลกการเรียนรู้ของเราได้มากขึ้น

มีไอดอลในวงการบันเทิงที่เป็นต้นแบบในการทำงานของเราบ้างมั้ย
จริงๆ คือเราไม่ฟิกซ์นะ คือพยายามให้พี่ๆ แต่ละคนเป็นต้นแบบในแต่ละด้าน แล้วเอามารวมกันในแบบมุมมองของเรา

ชอบดูหนังฟังเพลงแบบไหน
ชอบฟังเพลงมาก เคยไปให้สัมภาษณ์กับฟังใจ (E-Magazine / Music Application) เหมือนคนฟังเพลงเค้าจะรู้ว่าคนฟังเพลงจะมีนิสัยยังไงใช่ป่ะ แล้วพอพี่เค้าดูเพลย์สิลต์เพลงของเราแล้วเค้าก็จะบอกว่า ผมอ่านคุณไม่ออกเลยว่าคุณนิสัยยังไง (หัวเราะ) คือมันมีหลายแนวมาก มีทั้งญี่ปุ่นยุค 70s มีเพลงไทย มีเพลงอินดี้ไทย หรือบางทีหลุดไปถึงกามิกาเซ่ก็ยังมี คือฟังเพลงแบบหลากหลายมาก

ตอนนี้เชื่อว่าน่าจะต้องมีเด็กๆ ที่คอยดูคุณเป็นแบบอย่างอยู่ อยากให้คำแนะนำหน่อยว่า ถ้าอยากไปอยู่ในจุดที่ออกแบบเป็นในตอนนี้ ต้องทำอย่างไรบ้าง
จริงๆ เราว่าเด็กๆ สมัยนี้ค่อนข้างกลัว เค้าอยากจะทำอะไรแล้วไม่ค่อยกล้าลงมือทำ ออกแบบอยากให้ลงมือทำไปก่อน ไม่อยากให้คิดว่าไม่มีทาง หรือว่าพอแบบถ้าท้อมากๆ.. (นิ่งคิด) คือโอกาสของคนเราจะเข้ามาไม่พร้อมกัน แต่จะมีวันนึงที่โอกาสผ่านเข้ามาแล้วคุณจะไม่เสียใจเลยหากคุณได้ลงมือทำมัน แม้มันจะยาวนานแค่ไหนก็ตาม ทำให้เต็มที่ค่ะ

สุดท้ายอยากให้ฝากผลงาน
ตอนนี้ก็มีฉลาดเกมส์โกงนะคะ ก็จะเป็นหนังแนวใหม่ของไทย แต่ถ้าเป็นของต่างประเทศก็จะเคยได้ดูกันอยู่แล้ว แบบ Now you see me ซึ่งหนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกของออกแบบ และก็ของเพื่อนๆ ด้วย ตื่นเต้นจังที่พูด (หัวเราะ) ก็อยากจะบอกว่าอยากให้มาดูกัน แค่ Trailer ก็สนุกแล้ว มาดูในโรง แล้วก็ร่วมสนุก ลุ้นระทึกไปกับเราเถอะ เพราะว่าภารกิจนี้จะผ่านไปได้ด้วยดี ถ้ามีพวกคุณค่ะ

ภาพโดย : Kabepastic

คลิกชมแกลลอรี่รูปภาพ ออกแบบ ชุติมณฑน์ หน้าถัดไป 

keyboard_arrow_up