20 years later : 10 อัลบั้ม Rocks สุดคลาสสิคที่มีอายุครบ 20 ปี

20 years later : 10 อัลบั้ม Rocks สุดคลาสสิคที่มีอายุครบ 20 ปี

WHY : ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว หรือประมาณปี 1997 ถือเป็นยุคทองของวงการดนตรีอัลเทอร์เนทีฟ ร็อก จากทั้งฝั่งอังกฤษ และอเมริกา ที่แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่ 10 อัลบั้มนี้ยังคงเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซ ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ยุค 90s ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่วงการดนตรีโลกคึกคักถึงขีดสุด มันเต็มไปด้วยสีสันของแนวดนตรีหลากหลายจากศิลปินชั้นเยี่ยม โดยเฉพาะวงการดนตรีร็อกที่มาพร้อมกับวัฒนธรรม “อัลเทอร์เนทีฟ” ที่เน้นความต่างจาก “กระแสหลัก” กลายเป็นไบเบิลให้หนุ่มสาวทั่วโลกได้เดินตาม

“ฮีโร่” หรือ “เทรนด์แฟชั่น” ไม่ต้องมีอีกต่อไป ขอเพียงแค่กางเกงยีนส์ขาดๆ กับเสื้อยืดธรรมดาๆ เท่านั้นก็ “เจ๋ง” สุดๆ แล้ว

ในแง่ของวงการดนตรีว่ากันว่านี้คืออีกหนึ่งช่วงเวลา “พีคสุด” ของวงการร็อกที่ศิลปินจากทั่วโลกสร้างสรรค์ล้วนสร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซออกมา และยังคงความคลาสสิคอยู่จนถึงทุกวันนี้

ย้อนกลับไป 20 ปีที่แล้ว ในปี 1997 แม้เป็นช่วงปลายของยุคดนตรีอัลเทอร์เนทีฟที่เรายังคงได้เสพผลงานเพลงร็อกคุณภาพ จากศิลปินทั้งฝั่ง “อังกฤษ” และ “อเมริกา” กันอย่างมากมาย ซึ่งผลงานต่างๆ เหล่านี้ได้กลายเป็น “ตำนาน” สำหรับคอเพลงที่ไม่ว่าจะยุคไหน ก็ไม่ควรพลาดทั้งสิ้น

และนี่คือ 10 อัลบั้มเพลงร็อก ที่ยังคงความคลาสสิคอยู่เสมอ แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานถึง 20 ปีแล้วก็ตาม

1.Radiohead : OK Computer

Radiohead หนึ่งในไอค่อนของวงการเพลงร็อกจากประเทศอังกฤษที่ยังคงสร้างสรรค์ผลงาน และสามารถยืนระยะมาได้และมีผลงานใหม่ๆ ออกมาให้ได้ฟังกันจนถึงทุกวันนี้

จากวงดนตรีกีต้าร์แบนด์ที่ทำเพลงแบบ “Verse-Chorus-Verse” โดดๆ ลอยๆ จนทำให้นักวิจารณ์ดนตรีหลายคนมองว่าพวกเขาไม่น่าจะไปได้ไกลสักเท่าไหร่ แต่ด้วยมันสมองของ Thom York และเพื่อนๆ ได้พัฒนาดนตรีของพวกเขาจนสามารถบุกตลาดเพลงฝั่งอเมริกาได้สำเร็จด้วยผลงานอัลบั้มที่ 3 OK Computer นี้ และส่งผลให้พวกเขากลายเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีร็อกจากอังกฤษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อจาก The Beatle ในยุค 60s, Pink Floyd ในยุค 70, และ The Smiths ในยุค 80s ได้อย่างไร้ข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้น

แทร็คเด่น : Paranoid Android

 

2.Oasis : Be Here Now

Be Here Now สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 3 ของสุดยอดวงร็อกจากเกาะอังกฤษ Oasis ที่สร้างปรากฏการณ์ไว้กับวงการดนตรีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขายอัลบั้มชุดนี้ได้กว่า 500,000 ก๊อปปี้ภายในสัปดาห์แรกที่วางขาย การได้เล่นคอนเสิร์ตต่อหน้าผู้คนจำนวน 250,000 คนที่ Knebworth

ส่วนวีรกรรมทางด้านลบของ Oasis นั้นก็มากมายเหลือคณานับ ทั้งจากสองพี่น้อง Noel, Liam – Gallagher ที่ก่อเรื่องอื้อฉาวได้ทุกวันไม่ว่าจะเป็นการเมายาอาละวาด การทะเลาะกับนักข่าว หรือแม้แต่มีเรื่องกันเองภายในวง

สิ่งต่างๆ เหล่านี้ส่งผลให้พวกเขาแตกวงกันไปในที่สุดเมื่อปี 2009 ปล่อยให้แฟนๆ เรียกร้องให้มีการ Re Union อยู่จนถึงทุกวันนี้

แทร็คเด่น : Stand by me

 

3.Blur : Blur

Blur สตูดิโออัลบั้มชุดที่ 5 ที่ใช้ชื่อเดียวกับวง ผลงานของอีกหนึ่งวงดนตรีที่เป็นไอค่อนของดนตรีบริทป็อป และเป็นคู่กัด (ในเวลานั้น) กับ Oasis มาตลอด ซึ่งล่าสุดทั้ง 2 วงหันกลับมาคืนดีกันเรียบร้อย (โดยเฉพาะ Demon Albarn นักร้องนำของทางวงที่ร่วมงานกับ Noel Gallagher อยู่เรื่อยๆ ทั้งในงานส่วนตัวและในนามของวง Gorillaz)

ในอัลบั้มนี้ Blur หันไปหาซาวด์ในแบบ Indy lo-fi ของทางฝั่งอเมริกามากขึ้น ส่งผลให้เห็นเด่นชัดในซิงเกิ้ลสุดดังอย่าง Song 2 ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน แต่เพียงแค่อินโทรเพลงนี้ดังขึ้นมาแล้วล่ะก็ รับรอง โดดกันกระจาย

แทร็คเด่น : Song 2

 

4.Foo Fighters : The Colour and the Shape

The Colour and the Shape สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 2 ของ Dave Grohl อดีตมือกลองแห่งวง Nirvana ที่วางไม้กลองแล้วหันมาจับกีต้าร์ พ่วงตำแหน่งนักร้องนำแล้วพาวง Foo Fighters ให้กลายเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่คุณไม่อาจมองข้ามได้หากพูดกันถึงดนตรีร็อกจากยุค 90s

The Colour and the Shape ถูกเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัล Best Rock Album จากเวที Grammy Awards ในปี 1998 และสามารถทำยอดขายได้ถึง 2 ล้านก็อปปี้ภายในปีนั้นอีกด้วย

แทร็คเด่น : My Hero

 

5.The Offspring : Ixnay on the Hombre

Ixnay on the Hombre สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 4 ของอีกหนึ่งสุดยอดวงป็อป-พังค์ จากอเมริกานาม The Offspring ที่เริ่มสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองจากวงดนตรีอินดี้ทั่วๆ ไปให้หลายมาเป็นอีกหนึ่งวงดนตรีที่ประสบความสำเร็จในแง่ยอดขายแบบเมนสตรีมได้สำเร็จ

และแม้ว่ามันจะต้องแลกมาด้วยข้อหาทรยศให้กับแฟนเพลงระดับเดนตายของทางวงก็ตาม แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ต้องบอกเลยว่า พวกเขาสามารถสร้างสรรค์พัฒนาการทางด้านดนตรีของตัวเองออกมาได้อย่างน่าชื่นชม

แทร็คเด่น : The Meaning of Life

 

6.The Verve : Urban Hymns

กว่าที่จะประสบความสำเร็จในวงกว้างได้ในที่สุด วงดนตรีจากเมืองวีแกน ประเทศอังกฤษ ก็ต้องต่อสู่ฝ่าฟันกันมาถึงอัลบั้มที่ 3 Urban Hymns ชุดนี้ ซึ่งเต็มไปด้วยซิงเกิ้ลฮิตมากมายไม่ว่าจะเป็น Bitter Sweet Symphony, Lucky Man รวมถึง The Drugs Don’t Work

โดยที่ทั้ง 3 ซิงเกิ้ลที่ว่ามานี้ ส่งผลให้ Richard Ashcroft นักร้องนำ และนักแต่งเพลงประจำวงสวมมงกุฎแห่งความเป็นยอดนักแต่งเพลงได้อย่างสุดยอด ทั้งยังคงความคลาสสิคในระดับที่คอเพลงห้ามพลาดจนถึงทุกวันนี้

แทร็คเด่น : Lucky man

 

7.Mogwai : Young Team



ต้องบอกเลยว่าผลงานของ Scottish post rock นาม Mogwai วงนี้ นับเป็นผลงานระดับที่สร้างคุณูปการณ์ให้กับวงดนตรีแนวนี้จากทั่วโลกได้เจริญรอยตามกันเป็นขบวน และถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายมากนัก แต่บอกเลยว่าหากคุณจะหาวงร็อกดีๆ สักวงไว้ฟังแล้วล่ะก็ นี่คือผลงานที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตาม ในบ้านเราเองนั้น กระแสตอบรับผลงานของ Mogwai ค่อนข้างดีเลยทีเดียว เพราะครั้งหนึ่งพวกเขาเคยมาเปิดการแสดงที่เมืองไทยมาแล้ว โดยมีวงดนตรีอย่าง “โมเดิร์นด็อก” มาเล่นเป็นวงเปิดให้อีกด้วย

แทร็คเด่น : Like Herod

 

8.Super Furry Animals : Radiator



Radiator สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 2 ของ Super Furry Animals วงอินดี้ร็อกจากประเทศเวลส์ ที่แม้จะไม่ได้เป็นวงดนตรีที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงกว้าง แต่พวกเขาก็ถูกยอมรับจากนักฟังเพลงทั่วโลกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่นิยมชมชอบวงร็อกจากประเทศอังกฤษ ที่ไม่มีทางกาชื่อพวกเขาทิ้งอย่างแน่นอน

แทร็คเด่น : The International Language of Screaming

 

9.Deftones : Around the Fur



Around the Fur สตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 2 ของ Deftones วงดนตรีจาก แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่ได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งในผู้นำวงดนตรีอีโม-สครีมโม คอร์ ด้วยเสียงร้องแบบเก็บกดกระชากวิญญาณของ Chino Moreno เมื่อมาเจอกับริฟฟ์กีต้าร์แบบ Drop D ยานต่ำแต่หนักแน่นของ Stephen Carpenter จึงเกิดเป็นซาวด์เฉพาะตัวที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของทางวงที่ส่งผลถึงวงดนตรีจากทั่วโลกได้รับอิทธิพลไปเต็มๆ

แทร็คเด่น : Be Quiet And Drive (Far Away)

 

10.AFI : Shut Your Mouth and Open Your Eyes



ช่วงปลายของยุค 90s ต้องไม่ลืมว่ากระแสเพลงแบบอีโม-คอร์ กำลังได้รับความนิยมถึงขีดสุด และ AFI (A Fire Inside) อีกหนึ่งสุดยอดวงอีโม-คอร์ จากแคลิฟอร์เนียร์วงนี้ก็ได้ปล่อยผลงานลำดับที่ 3 ของตัวเองออกมา และได้รับการตอบรับจากนักฟังเพลงทั่วโลกเป็นอย่างดี

แทร็คเด่น : Third Season

keyboard_arrow_up