ปักหมุด! 5 คาเฟ่เติมหวาน ควรค่าแก่การพาแฟนสาวไปเดท

ปักหมุด! 5 คาเฟ่เติมหวาน ควรค่าแก่การพาแฟนสาวไปเดท

WHERE : ไม่ต้องกังวลว่าวาเลนไทน์นี้แฟนสาวจะงอน เพราะไม่ถูกใจกับคาเฟ่ที่พาไปเติมหวาน… เมื่อเราได้เลือกคาเฟ่บรรยากาศกินขาด ที่แม้จะไม่หวานแหววจนทำให้โลกกลายเป็นสีชมพู แต่ก็เก๋ไก๋ถูกใจแฟนสาวอย่างแน่นอน

หนุ่มคนที่ไหนที่กะจะเซอร์ไพรส์และชวนแฟนสาวไปเติมความหวานกันที่ร้านบรรยากาศดีสักร้าน แต่ไม่รู้จะเลือกไปร้านไหนดี วันนี้เรามีตัวช่วยด้วยการคัดสรรค์ 5 ร้านอาหารและคาเฟ่ที่เรียกได้ว่าบรรยากาศกินขาด ที่แม้จะไม่ได้หวานแหววจนทำให้โลกกลายเป็นสีชมพู แต่ก็เป็นคาเฟ่ที่มีการตกแต่งได้อย่างเก๋ไก๋ เพื่อให้คุณและคนรักได้สนุกกับการถ่ายภาพคู่เป็นที่ระลึก แน่นอนว่าเครื่องดื่มและอาหารของคาเฟ่เหล่านี้ก็เริดไม่แพ้กัน

01. Wie Immer Bangkok

• น่านั่งแค่ไหน : คาเฟ่สีขาวไซส์เล็กในบรรยากาศอบอุ่น โดยเฉพาะการตกแต่งด้วยสีขาวที่เน้นความโปร่งและสว่างจากแสงธรรมชาติ ชวนให้รู้สึกละมุนอุ่นใจ และจากขนาดเล็กแต่กลับไม่อึดอัดนี้เอง ก็ชวนให้เราคิดถึงคาเฟ่ไซส์เล็กของญี่ปุ่น ที่แม้จะมีพื้นที่จำกัด แต่ก็ชวนให้นั่งปล่อยใจไปเรื่อยๆ Wie Immer จึงเป็นคาเฟ่ที่เหมาะกับคู่รักที่ชอบความเรียบง่าย พูดคุยกันเบาๆ ในบรรยากาศอบอุ่น และเพิ่มความน่าสนใจด้วยแกลเลอรี่จัดแสดงภาพที่ซ่อนตัวอยู่หลังร้าน

• มีอะไรให้กินบ้าง : คาเฟ่นี้เน้นเมนูโฮมเมดง่ายๆ ที่ไม่หรูหราหรือยุ่งยาก อย่างเมนูขนมก็มี Moe Joe Cookies, Cranberry Oatmeal Cookies และ Banana Bundt Cake ส่วนเครื่องดื่มนั้นก็มีตั้งแต่กาแฟ ชาเขียว ชาจีน และอื่นๆ อาทิ Cookies and Cream Smoothies และ Caramel Macchiato เป็นต้น แม้เมนูขนมและเครื่องดื่มจะมีให้เลือกไม่มาก แต่ก็เพียงพอต่อการให้คู่รักได้เติมหวานกันแล้ว

02. Make Me Mango

  • Address : ท่าเตียน ตรงข้ามวัดโพธิ์ ซอยเดียวกับโรงแรม Inn a day
  • Facebook : www.facebook.com/makememango

• น่านั่งแค่ไหน : เป็นคาเฟ่ที่เหมาะกับคนรักบิงซูและขนมหวาน โดยเฉพาะเมื่อคาเฟ่แห่งนี้ตกแต่งร้านได้อย่างเก๋ไก๋ เริ่มจากหน้าร้านที่สะดุดตาชวนให้คิดถึงคาเฟ่ในญี่ปุ่น ส่วนภายในก็ตกแต่งด้วยเส้นสายที่ทำให้ร้านมีมิติ พร้อมกับการเปิดดับเบิ้ลสเปซทำให้พื้นที่หนึ่งห้องแถวดูโปร่งไม่อึดอัด ผนวกกับการออกแบบมุมทุกมุมของร้านให้เป็นเหมือนฉากถ่ายภาพ ทำให้ร้านนี้เหมาะกับคู่รักที่อยากเติมหวานและถ่ายรูปนั่นเอง

• มีอะไรให้กินบ้าง : แค่ชื่อก็รู้แล้วว่าร้านนี้โดดเด่นด้วยเมนูมะม่วง ไม่ว่าจะเป็น Mango Bingsu และ Mango Smoothies Pure ฯลฯ แม้จะเป็นคาเฟ่ที่โดดเด่นด้วยเมนูมะม่วง แต่ก็ใช่ว่าจะมีเฉพาะเมนูมะม่วงเท่านั้น เพราะยังมีเมนูขนมหวานอื่นๆ ให้ได้ชิม โดยเฉพาะเมื่อทางร้านเพิ่มเมนูพิเศษในเทศกาลแห่งความรัก อาทิ Blossom Rose Bingsu เสิร์ฟพร้อมวิปครีมกุหลาบ และน้ำอิตาเลี่ยนโซดากุหลาบ Scent of Rose Drink เป็นต้น

03. Wanderlust BKK

  • Address : 149 – 151 ถนนพระราม 4 ใกล้สถานีรถไฟหัวลำโพง
  • Facebook : www.facebook.com/onederlust

• น่านั่งแค่ไหน : Modern Loft Industrial in Gray Tone คือคอนเซ็ปต์ของการตกแต่งร้านนี้ จึงไม่แปลกหากคาเฟ่นี้จะมีบรรยากาศเท่ๆ ที่แฝงเสน่ห์เรียบๆ แบบมินิมอลเอาไว้อย่างลงตัว ภายในร้านจะเน้นสีเทาและสีขาว โดยมีแสงสว่างจากธรรมชาติสาดส่องเข้ามา ทำให้บรรยากาศในร้านไม่อึมครึมและเป็นเสน่ห์ของร้านอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะเมื่อร้านยังหอมกรุ่นด้วยกลิ่นกาแฟ

• มีอะไรให้กินบ้าง : เน้นเสิร์ฟอาหารบรันช์สไตล์เมลเบิร์น หรือ Melbourne Brunch ที่ผสมผสานกับเสน่ห์ของอาหารหลายสัญชาติอย่างลงตัว โดยมีเมนูจานหลักชวนอิ่มท้องอย่าง Braised Mushroom W. Soft Polenta เมนูที่มีกลิ่นอายความเป็นเมลเบิร์นกับการปรุงที่ใช้เวลานานหลายชั่วโมงกว่าจะได้ความอร่อยกลมกล่อม ส่วนเมนูขนมหวานที่ชวนอร่อยไม่แพกันทั้ง Skillet Dutch Pancake แพนเค้กนุ่มฟูที่มีผลไม้หลากชนิดมาตัดรส หรือ Avocado Affogato ที่ผสมผสานความอร่อยของอโวคาโดบด ไอศกรีมวนิลา กับความเข้มของกาแฟ House Brend ที่ถูกสกัดจนได้ช็อตเข้มข้ม เป็นต้น

04. Butterfly Organic Place

• น่านั่งแค่ไหน : คาเฟ่คอนเซ็ปต์ “นม” ทำให้คาฟ่แห่งนี้มีสีขาวคลีนสะอาดตา โดยเติมลูกเล่นให้น่าสนใจด้วยการเนรมิตโซฟานั่งสบายรูปทรงบ้านที่ทำให้เรารู้สึกอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เพิ่มบรรยากาศอบอุ่นด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้อ่อน ส่วนบรรยากาศรอบๆ ร้านก็แต่งแต้มด้วยสีเขียวจากธรรมชาติ ทำให้คาเฟ่แห่งนี้มีบรรยากาศเงียบสงบ ขณะเดียวกันก็แฝงความเก๋อย่างมีเอกลักษณ์เอาไว้

• มีอะไรให้กินบ้าง : คาเฟ่แห่งนี้เป็น “คาเฟ่นม” จึงเน้นเสิร์ฟนมออแกนิกเป็นหลัก โดยเฉพาะเมื่อคาเฟ่นี้เปรียบเสมือนหน้าร้านของแบรนด์ Butterfly Organic Milk จึงไม่แปลกหากจะมีเพียงนมและโยเกิร์ตให้เลือกชิม แม้ว่าจะมีเครื่องดื่มยอดฮิตอย่างกาแฟเข้ามาเสริม แต่ก็ไม่เน้นมากนัก ส่วนเมนูก็มีให้เลือกไม่มากนักเช่นกัน

05. Patom

• น่านั่งแค่ไหน : คาเฟ่ที่รายล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติพร้อมกับความโดดเด่นของเรือนกระจกที่ช่วยขับเน้นร้านนี้น่าสนใจยิ่งขึ้น ภายในตกแต่งในโทนสีขาวที่ทำให้ร้านโล่งและโปร่ง โดยเฉพาะเมื่อเราสามารถปล่อยใจปล่อยอารมณ์ไปกับความรื่นรมย์ของต้นไม้รอบๆ ได้อย่างเต็มตาผ่านกระจกใสรอบร้าน กลางร้านยังโดดเด่นด้วยบันไดวนสีขาวที่เมื่อเดินขึ้นแล้วจะพบกับ Bean bag ให้เราได้นั่งชิลยิ่งขึ้น

• มีอะไรให้กินบ้าง : เน้นเมนูออแกนิก โดยมีให้เลือกตั้งแต่อาหารจานหลักซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอาหารไทย อย่างข้าวผัดพริกขิงปลา รวมทั้งกับข้าวอื่นๆ ที่เราคุ้นเคย ส่วนขนมหวานคงถูกใจคนรักขนมไทย ไม่ว่าจะเป็นสังขยามะพร้าวอ่อน ขนมตะโก้ ฝอยทอง เป็นต้น และเครื่องดื่มก็มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่น้ำผลไม้คั้นสดและน้ำสมุนไพร ยังมีเครื่องดื่มที่เราคุ้นเคยอย่างกาแฟ ชา และอื่นๆ อีกด้วย

keyboard_arrow_up